Ashes ออสเตรเลียขยายช่องว่างนำเหนืออังกฤษ ซึ่งเสียใจที่โอกาสหลุดลอยไป – ปฏิกิริยาในวันที่สอง

แม้ว่าความพยายามของวิลล์ แจ็คส์จะยอดเยี่ยม แต่การรับบอลของอังกฤษคนอื่นๆ กลับไม่ยอดเยี่ยมเท่าที่ควร นอกเหนือจาก Travis Head แล้ว Alex Carey (ลงเล่นสองครั้ง), Josh Inglis และ Michael Neser ต่างก็เป็นกำลังสำคัญให้กับทีมของ Brendon McCullum ในวันแข่งขันที่น่าผิดหวัง

โดยรวมแล้วการโยนของพวกเขาก็ไม่ดีนัก โดยที่ Brydon Carse มีค่าใช้จ่ายสูงมากสำหรับวิกเก็ตทั้งสามของเขา

เมื่อสิ้นสุดวันที่สอง แครี่ไม่แพ้ใครด้วยคะแนน 46 ขณะที่เนเซอร์มีคะแนน 15  ความร่วมมือของพวกเขามีมูลค่า 49 อย่างไรก็ตาม ไบรดอน คาร์สทำได้ 2 วิกเก็ตจาก 4 ลูก ทำให้โมเมนตัมของออสเตรเลียหยุดลง

เขาโยนคาเมรอน กรีนได้ 45 ก่อนที่วิลล์ แจ็คส์จะรับลูกที่พุ่งสูงเพื่อไล่สตีฟ สมิธออกไป

โจฟรา อาร์เชอร์ มีส่วนร่วมกับลูกตั้งแต่ต้นเกม และน่าจะได้วิคเก็ตในโอเวอร์ที่เก้า เมื่อทราวิส เฮด ขยับตามหลังไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เจมี่ สมิธ ไม่สามารถรักษาวิคเก็ตไว้ได้ ทำให้เขามีโอกาสทำแต้ม 3 ส่งผลให้โมเมนตัมของออสเตรเลียพลิกกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ

เฮด  ทำคะแนนได้ 77 แต้มจากวิคเก็ตแรกร่วมกับเจค เวเธอร์รัลด์ ซึ่งทำคะแนนได้ 50 แต้มในการทดสอบครั้งแรกด้วยคะแนน 72  ที่สร้างขึ้นอย่างดี

นอกจากนี้ Marnus Labuschagne และ Steve Smith  ยังมีคะแนนครึ่งศตวรรษอีกด้วย ขณะที่ออสเตรเลียดูเหมือนว่าพวกเขากำลังมีความก้าวหน้าอย่างราบรื่นในการมุ่งสู่คะแนนรวมที่ยิ่งใหญ่

มาสรุปวันนี้กันดีกว่าไหม?

ลองนึกย้อนกลับไปตอนตีสี่ ตอนที่อังกฤษยังตีอยู่! พวกเขากลับมาตีต่อด้วยสกอร์ 325-9 แต่ทำได้แค่เก้าแต้ม ก่อนที่มาร์นัส ลาบูชาญจะตีโจฟรา อาร์เชอร์ออกไป อังกฤษเอาหมด 334 แต้ม

อาร์เชอร์ไม่ได้ลงเล่นในเทสต์ โดยทำคะแนนสูงสุดในอาชีพของเขาที่ 38  โจ รูต จบเกมโดยไม่แพ้ใครด้วยคะแนน 138  มิตเชลล์ สตาร์ก เป็นตัวเลือกของโบว์เลอร์ ด้วยคะแนน 6-75

รอย คีน มองว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ‘สิ้นหวัง’ หลังตีเสมอช่วงท้ายเกมจนเสียสองแต้มให้กับเวสต์แฮมที่กำลังตกชั้น

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด พลาดโอกาสที่จะขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 5 ในพรีเมียร์ลีกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เมื่อเวสต์แฮมสามารถเสมอกับโอลด์แทรฟฟอร์ด 1-1 ในช่วงท้ายเกม รอย คีน ตำหนิฟอร์มการเล่นที่ “หวาดผวา” และตั้งคำถามถึงมาตรฐานของทีมเจ้าบ้านหลังจากเสียประตูจากลูกเตะมุมอีกครั้ง

รอย คีน กล่าวหาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่า “หวาดกลัว” มากเกินไปที่จะเอาชนะเวสต์แฮม หลังจากพลาดโอกาสที่จะขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 5 ของพรีเมียร์ลีก และกล่าวว่าผลงานดังกล่าว “สิ้นหวัง” 

เวสต์แฮมสามารถตีเสมอ1-1 ในช่วงท้าย เกมที่โอลด์แทรฟฟอร์ดได้สำเร็จ เมื่อลูกยิงตีเสมอของ ซุงกูตู มากัสซ่า ในนาทีที่ 83 ตีเสมอให้กับดิโอโก้ ดาโลต์ ก่อนที่ประตูขึ้นนำของทั้งคู่จะจบลง

ภายใต้การคุมทีมของรูเบน อโมริม แมนฯ ยูไนเต็ดเก็บได้เพียง 27 คะแนนจาก 20 นัดที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด และคว้าชัยชนะได้เพียงนัดเดียวจาก 5 นัดหลังสุดในลีก โดยเสมอ 3 นัด แม้ว่าพวกเขาจะมีคะแนนนำในทั้งสองนัดก็ตาม

“หลังจากที่พวกเขาได้ประตู คุณก็จะได้เจอกับทีมที่อยู่ในสามอันดับสุดท้าย พวกเขาผ่อนคันเร่งลง” คีนกล่าว “อย่าไปสนใจเวสต์แฮมเลย พวกเขาสมควรโดนตีเสมอจริงๆ”

ดาโลต์: เราวิตกกังวลมากเกินไป มันเป็นความผิดของเรา

ดิโอโก้ ดาโลต์ กองหลังของทีมกล่าวว่าทีมของเขารู้สึก “วิตกกังวล” หลังจากเปิดสกอร์ได้ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด และต้องกลับมามองตัวเองหลังจากเสียคะแนนนำอีกครั้ง

“แน่นอนว่าผิดหวัง เราต้องควบคุมเกมให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะในบ้าน” เขากล่าวกับสกายสปอร์ตส์

“เราไม่สามารถกังวลได้มากขนาดนั้น เราครองบอลได้ไม่ดีนัก เห็นได้ชัดว่าเราผิดหวังกับผลเสมอ เราเล่นได้ดี”

“มันเป็นทางออกที่เราต้องหา สุดท้ายแล้วเราก็ต้องหันมามองที่ตัวเราเอง มันเป็นความผิดของเราเองมากกว่า”

แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดความเชื่อมั่นที่แท้จริง

การวิเคราะห์โดยลอร่า ฮันเตอร์จาก Sky Sports: เป็นที่ยืนยันกันตั้งแต่เมื่อคืนวันพฤหัสบดีแล้วว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดขาดความมุ่งมั่นภายใต้แรงกดดัน ดิโอโก ดาโลต์ กล่าวว่าเพื่อนร่วมทีมของเขาถูกขัดขวางด้วยความวิตกกังวล จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องของระดับสมาธิต่างหาก

ลูกทีมของรูเบน อโมริม ไม่เสียประตูเลยใน 7 เกมติดต่อกัน นับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม พวกเขาสร้างจุดยืนของตัวเองในเกมแรกๆ แล้วก็ต้องเสียประตูคืนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พวกเขาชนะเกมแรก แล้วก็มาสะดุดในเกมถัดไป ไม่มีอะไรต่อเนื่องเลย

แมนฯ ยูไนเต็ดครองเกมรุกได้เหนือกว่าทุกสถิติในเกมกับเวสต์แฮม ทีมที่ด้อยกว่า โดยสร้างค่า xG สูงกว่า ยิงตรงกรอบได้มากกว่า และสร้างโอกาสทองได้สามครั้ง ซึ่งสองครั้งในนั้นพลาดไป พวกเขาสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษฝ่ายตรงข้ามถึง 42 ครั้ง ถือเป็นจำนวนครั้งที่สูงมากหากเสียประตูแค่ประตูเดียว

ท้ายที่สุดแล้ว ทีมยูไนเต็ดชุดนี้แทบไม่มีความเชื่อมั่นเลย อาโมริมคร่ำครวญถึงการขาดการควบคุมในครึ่งหลังหลังเกม และโทษว่าเป็นเพราะ “การเสียบอลลูกที่สอง” ถ้าคุณไม่แข่งขัน หรือไม่สามารถแข่งขันได้ตลอด 90 นาที นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้น

สนใจเดิมพันแบบมั่นคง ปลอดภัย คลิกเข้าเล่นกับ UFA008 ได้ที่นี่เลย!

บาร์เซโลน่า กลับมาชนะ ลาลีกา สเปน ยามาลโชว์ฟอร์มเกินวัย สื่อสเปนชูอนาคตไกลสุดในลีก ลามีน ยามาลทำผลงานเด่นพาบาร์เซโลน่าชนะ สื่อสเปนเชื่อว่าเขาจะกลายเป็นสตาร์ระดับโลกในไม่ช้า

ยามาล โชว์ฟอร์มเด่นพาบาร์ซ่าคว้าชัย

บาร์เซโลน่ากลับมาเก็บชัยชนะในบ้านได้อีกครั้งหลังผ่านช่วงผลงานไม่นิ่ง โดยยามาลวัยเพียง 17 ปีเล่นเด่นที่สุดในสนาม สร้างจังหวะบุกหลายครั้งและทำหนึ่งประตูสุดสวย

ความเร็วและสัญชาตญาณทำให้เขาโดดเด่น

ยามาลใช้จุดเด่นคือความเร็วและการเลี้ยงสวนคู่แข่ง สื่อสเปนถึงกับเปรียบว่าเขามีสไตล์คล้ายเมสซีในวัยเยาว์ เพราะความกล้าลุยและการครองบอลที่เหนียวแน่น

ชาบี ยกยามาลคืออนาคตของบาร์เซโลน่า

ชาบี เอร์นานเดซกล่าวว่า ยามาลมีทัศนคติที่ยอดเยี่ยมและเป็นผู้เล่นที่พร้อมจะพัฒนา เขาคือหนึ่งในความหวังของทีมในระยะยาว

บาร์ซ่า ขยับไล่จี้จ่าฝูงหลังเก็บสามแต้ม

ชัยชนะครั้งนี้ทำให้บาร์เซโลน่ามีแต้มเพิ่มจนเข้าใกล้จ่าฝูง และยังมีโปรแกรมใหญ่ให้ลุ้นในสัปดาห์ถัดไป

ลิเวอร์พูล เฉือนชัยสุดดราม่า นูนเญซยิงทดเจ็บ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สื่ออังกฤษยกเป็นจุดเปลี่ยนลุ้นแชมป์ ยิงประตูชัยช่วงทดเวลาให้ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้ม สื่ออังกฤษชี้ชัยชนะครั้งนี้เพิ่มโมเมนตัมทีมลุ้นแชมป์เต็มตัว

นูนเญซซัดประตูทดเจ็บพาลิเวอร์พูลคว้าชัยสำคัญ

ลิเวอร์พูลเปิดบ้านเก็บสามแต้มสุดระทึก หลังจากต้องลุ้นจนถึงวินาทีสุดท้าย โดยดาร์วิน นูนเญซยิงประตูโทนช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+3 ช่วยให้ทีมเฉือนเอาชนะคู่แข่งที่ตั้งรับลึกตลอดทั้งเกมได้แบบเฉียดฉิว แฟนบอลในแอนฟิลด์ระเบิดเสียงเฮดังสนั่นทันทีที่บอลพุ่งผ่านเส้นประตู สื่ออังกฤษถึงกับพาดหัวว่า

“นูนเญซคือฮีโร่ในวันที่ลิเวอร์พูลต้องการมากที่สุด”

ผลงานในเกมนี้ทำให้ลิเวอร์พูลยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ และสร้างความมั่นใจให้ทีมก่อนโปรแกรมหนักในเดือนธันวาคม

เกมรุกลิเวอร์พูลพยายามเจาะแนวรับคู่แข่งตลอดทั้งเกม

รูปเกมส่วนใหญ่เป็นการบุกของลิเวอร์พูลที่ครองบอลเกิน 70% แต่คู่แข่งตั้งรับแน่นแบบแพ็คหลังเต็มพื้นที่ ทำให้นักเตะอย่างซาลาห์และดิอาซไม่สามารถหาพื้นที่เข้ายิงได้ง่าย การยิงไกลกับบอลครอสจึงเป็นอาวุธสำคัญในเกมนี้

คล็อปป์ต้องปรับแผนหลายครั้ง ทั้งการส่งตัวสำรองลงมาเพิ่มความเร็วและความสด จนสุดท้ายทีมก็หาจังหวะทำประตูได้สำเร็จจากจังหวะจ่ายสุดสวยของเอเลียตต์ให้ นูนเญซยิงเข้าไป

คล็อป ป์ระบุทีมแสดงสปิริตยอดเยี่ยมจนคว้าชัย

หลังจบเกม คล็อปป์กล่าวชื่นชมลูกทีมว่า “สู้จนวินาทีสุดท้าย” และชัยชนะนี้มีความสำคัญมากต่อบรรยากาศในทีม เขายอมรับว่าคู่แข่งรับลึกและทำให้เกมยากขึ้น แต่ลิเวอร์พูลแสดงให้เห็นถึงความอดทนและความมุ่งมั่นจนสามารถเอาชนะได้ในที่สุด

ลิเวอร์พูล เก็บสามแต้มไล่จี้จ่าฝูงต่อเนื่อง

ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ลิเวอร์พูลตามหลังจ่าฝูงเพียงไม่กี่คะแนน และยังมีโปรแกรมให้ลุ้นอีกหลายเกมในเดือนที่มีการแข่งขันถี่ที่สุดของฤดูกาล สื่อคาดว่าหากทีมรักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ได้ โอกาสลุ้นแชมป์ยังเปิดกว้างเต็มที่

เฟอร์รารี ยกระดับ รถใหม่ทำเวลาทดสอบเฉียบ F1 ฟอร์มูล่าวัน สื่อมอเตอร์สปอร์ตเชื่อมีลุ้นเบียดเรดบูด ทีมเฟอร์รารีทำเวลาทดสอบรถใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม สื่อ F1 วิเคราะห์มีโอกาสลุ้นท้าทายเรดบูล

เฟอร์รารี ทำเวลาทดสอบเร็วขึ้นแบบชัดเจน

ทีมเฟอร์รารีสร้างกระแสฮือฮาในโลกมอเตอร์สปอร์ตอีกครั้ง หลังการทดสอบรถรุ่นใหม่ในพรีซีซันล่าสุด ทีมสามารถทำเวลาต่อรอบได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในสภาพสนามแห้งที่มักเป็นจุดอ่อนของพวกเขาในฤดูกาลก่อน การทดสอบรอบนี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นความเร็วเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความเสถียรของรถที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด

คาร์ลอส ซายน์ซ และ ชาร์ลส์ เลอแคลร์ สองนักขับของทีมสลับกันลงขับตลอดทั้งวัน โดยเฉลี่ยเวลาต่อรอบของเฟอร์รารีอยู่ในระดับท็อปทรีตลอดการทดสอบ และในบางช่วงยังทำเวลาได้ดีกว่าเรดบูล ซึ่งถือเป็นทีมแชมป์โลก 2 ปีซ้อนอีกด้วย

สื่อมอเตอร์สปอร์ตชื่อดังอย่าง Motorsport.com รายงานว่า

“นี่คือครั้งแรกในรอบหลายปีที่เฟอร์รารีดูมีความพร้อมใกล้เคียงเรดบูลอย่างเห็นได้ชัด ทั้งด้านโครงรถ การยึดเกาะ และความเร็วในทางตรง”

บรรดาแฟนเฟอร์รารีในโซเชียลต่างตื่นเต้นและเชื่อว่า นี่จะเป็นสัญญาณดีสำหรับการลุ้นแชมป์โลกในฤดูกาลใหม่

การยึดเกาะและความเสถียรในโค้งคือจุดเด่น

สิ่งที่สร้างความเซอร์ไพรส์ให้วงการ F1 มากที่สุดคือ การยึดเกาะในโค้งความเร็วสูง ของรถเฟอร์รารีรุ่นใหม่ ซึ่งในฤดูกาลก่อนเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ทีมเสียเวลาในหลายสนาม แต่หลังจากการอัปเดตแอโรไดนามิกครั้งใหญ่ในปีนี้ ฟอร์มของรถกลับพุ่งขึ้นแบบเกินคาด

ระหว่างการทดสอบ นักขับทั้งสองรายยืนยันตรงกันว่า รถมีความเสถียรในโค้งมากขึ้น และสามารถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงได้โดยไม่สูญเสียการควบคุม ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกอย่างยิ่งสำหรับสนามที่ต้องอาศัยดาวน์ฟอร์ซเยอะ เช่น ซิลเวอร์สโตน ซูซูกะ และบาร์เซโลนา

เลอแคลร์ให้สัมภาษณ์หลังจากการทดสอบว่า

“รถปีนี้คุมง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก เรามีแรงยึดเกาะดีขึ้นทั้งในโค้งช้าและโค้งเร็ว ซึ่งช่วยให้เรามั่นใจมากขึ้นเมื่ออยู่ในลิมิต”

การขับที่ราบรื่นขึ้นยังช่วยรักษายางได้ดีขึ้นด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของเฟอร์รารีในซีซันก่อน เพราะรถมักกินยางเร็ว ทำให้ต้องเข้าพิทหลายครั้งเกินความจำเป็น

นักขับเผยรู้สึกมั่นใจมากกว่าปีก่อนอย่างเห็นได้ชัด

นักขับทั้งสองคนต่างยอมรับว่า รถปีนี้ให้ความรู้สึก “มั่นคงและสมดุล” มากกว่าปีก่อน ๆ อย่างชัดเจน ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถดันความเร็วได้มากขึ้นโดยไม่เสี่ยงต่อการเสียการควบคุม

ซายน์ซกล่าวว่า

“ผมรู้สึกถึงการตอบสนองที่ดีขึ้นมากโดยเฉพาะในโค้งกลาง ๆ รถมีการถ่ายน้ำหนักที่เป็นธรรมชาติขึ้น ทำให้มั่นใจได้เต็มที่ว่ามันจะไปตามที่เราต้องการ”

ด้านเลอแคลร์เสริมว่า

“ความมั่นใจเป็นส่วนสำคัญใน F1 เมื่อคุณรู้ว่ารถจะไม่เหวี่ยงหรือหลุดในโค้ง คุณสามารถดันเวลาได้เต็มที่ นี่คือความต่างที่เราเห็นในรถใหม่”

การที่นักขับมีความมั่นใจหมายความว่า ทีมสามารถดันแผนการแข่งขันและกลยุทธ์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น เช่น การใช้ยางนานขึ้น หรือการเซ็ตอัปให้เหมาะกับสภาพสนามเฉพาะแต่ละรายการได้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก

สื่อมอเตอร์สปอร์ตมองว่า ปีนี้เฟอร์รารีไม่ใช่ม้ามืดอีกต่อไป

จากผลงานการทดสอบดังกล่าว ทำให้สื่อหลายสำนักเริ่มมองว่า เฟอร์รารีอาจไม่ใช่ “ม้ามืด” อีกต่อไป แต่เป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ฤดูกาลนี้ร่วมกับเรดบูลอย่างเต็มตัว นอกจากนี้ แม็คลาเรนและเมอร์เซเดสก็ยังมีพัฒนาการที่น่าจับตา แต่ความเร็วของเฟอร์รารีดูโดดเด่นที่สุดในบรรดาทีมไล่ล่าแชมป์

Sky Sports F1 วิเคราะห์ว่า

“ถ้ารถเฟอร์รารีทำความเร็วแบบนี้ได้ในสนามจริง พวกเขาอาจเป็นคู่แข่งที่ใกล้ชิดเรดบูลที่สุดเท่าที่เคยมีมาในยุคปัจจุบัน”

สิ่งที่แฟน ๆ เฝ้ารอคือการพิสูจน์ความเร็วจริงในสนามแข่งรายการแรกของฤดูกาล เพราะแม้ผลทดสอบจะดีแค่ไหน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ เสถียรภาพในการแข่งขันจริงและการจัดการแผนพิทสต็อป ซึ่งเฟอร์รารีเคยทำพลาดบ่อยครั้ง

อย่างไรก็ตาม สัญญาณจากการทดสอบครั้งนี้ทำให้แฟน ๆ กลับมามีความหวังเต็มเปี่ยมว่า ฤดูกาลใหม่อาจเป็นปีที่ม้าลำพองกลับคืนสู่เส้นทางแชมป์โลกอีกครั้ง

พร้อมลุยความสนุกแบบครบวงจรหรือยัง? คลิกเลยที่ Ufa365 เพื่อเริ่มประสบการณ์เดิมพันระดับพรีเมียม!

นาโอมิ โอซาก้า คัมแบ็กสวย เทนนิส WTA Tour ชนะสบายสองเซต สื่อญี่ปุ่นปลื้มผลงานอันมั่นใจ กลับมาโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม เก็บชัยเกมแรกของทัวร์แบบนิ่ม ๆ

โอซาก้า กลับมาชนะคู่แข่งแบบไม่เสียเกมเสิร์ฟ

นาโอมิ โอซาก้า ยืนยันการคัมแบ็กในระดับทัวร์ว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หลังโชว์ฟอร์มโดดเด่นเอาชนะคู่แข่งแบบ สบายสองเซตรวด 6–3, 6–2 โดยไม่เสียเกมเสิร์ฟแม้แต่เกมเดียวในแมตช์ล่าสุดของการแข่งขัน WTA Tour การกลับมาสู่คอร์ตของเธอครั้งนี้เต็มไปด้วยความมั่นใจและพลังบวก ซึ่งแฟนเทนนิสทั่วโลกต่างรอคอยมานาน

ตั้งแต่เริ่มต้นโอซาก้าคุมเกมได้อย่างเด็ดขาดด้วยการเสิร์ฟแรกที่หนักและแม่นยำ เธอใช้สปีดบอลกดดันคู่แข่งทันที ทำให้คู่ต่อสู้ออกอาการลนตั้งแต่เกมแรกของแมตช์ แม้คู่แข่งพยายามเปลี่ยนจังหวะด้วยการตีส่ายและตีช้า แต่โอซาก้ายังสามารถยืนพื้นท้ายคอร์ตอย่างมั่นคง และใช้ความนิ่งปิดแต้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บรรยากาศในสนามเต็มไปด้วยเสียงเชียร์ เธอได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแฟน ๆ ที่ดีใจที่เห็นโอซาก้ากลับมาลงแข่งด้วยสภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง สื่อญี่ปุ่นอย่าง NHK เขียนว่า

“นี่คือโอซาก้าที่โลกเทนนิสคิดถึง—มั่นใจ สดใส และเต็มไปด้วยพลังแข่งขัน”

ชัยชนะในรอบนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าเธอกำลังก้าวกลับสู่ฟอร์มระดับท็อปของตัวเองอีกครั้ง

จังหวะเสิร์ฟแรกที่ดุดันจนคู่แข่งเสียสมดุล

เทนนิสของโอซาก้าถูกยกย่องเสมอในด้านพลังและความเร็ว และในแมตช์นี้ สิ่งที่เด่นที่สุดคือ จังหวะเสิร์ฟแรกที่เกรี้ยวกราดจนคู่แข่งรับไม่ไหว เธอทำเอซหลายครั้งในเซตแรก แถมเสิร์ฟเฉลี่ยเกิน 180 กม./ชม. อย่างต่อเนื่อง ทำให้คู่แข่งต้องถอยรับลึกขึ้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นข้อเสียในเกมระดับสูงแบบนี้

เมื่อคู่แข่งถอยหลัง เขาก็เสียพื้นที่ในการป้องกันลูกโฟร์แฮนด์ของโอซาก้าซึ่งตามมาอย่างรวดเร็ว การเล่นแบบนี้ทำให้โอซาก้าควบคุมเกมได้มากกว่า 70% ของแต้มทั้งหมด โดยเฉพาะเมื่อต้องเล่นในจังหวะสองบอล เธอก็ยังสามารถตีวางมุมให้คู่แข่งต้องวิ่งแก้เกมแทบทุกลูก

ผู้เชี่ยวชาญจาก WTA Insider วิเคราะห์ว่า

“เมื่อโอซาก้าเสิร์ฟดี เธอคือหนึ่งในผู้เล่นที่หยุดยากที่สุดในโลก ไม่มีใครอ่านจังหวะเธอทัน”

นอกจากเสิร์ฟที่ดุดันแล้ว เธอยังใช้บอลลึกตัดจังหวะ ทำให้คู่แข่งตีพลาดเองหลายครั้ง ส่งผลให้รูปเกมขาดสมดุลตลอดทั้งแมตช์

ทีมงานเผยว่า โอซาก้ามีสภาพจิตใจดีขึ้นมาก

เบื้องหลังความสำเร็จของโอซาก้าในการคัมแบ็กล่าสุดคือ “สภาวะจิตใจที่ดีขึ้น” ซึ่งทีมงานได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษหลังจากที่เธอเคยพักแข่งเนื่องจากปัญหาทางด้านจิตใจในช่วงก่อนหน้านี้

โค้ชและทีมเทคนิคเผยหลังเกมว่า

“โอซาก้ามีความสุขกับการเล่นเทนนิสมากขึ้น เธอยิ้มเยอะขึ้น และสนุกกับการแข่งขันอีกครั้ง นี่คือปัจจัยที่ทำให้คุณภาพการตีลูกของเธอกลับมา”

แม้จะเป็นเพียงเกมแรกของทัวร์ แต่ภาพที่เห็นชัดเจนคือความผ่อนคลาย การเล่นอย่างมั่นใจ และความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เธอสามารถรับมือแรงกดดันได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในแต่ละจังหวะสำคัญ

สื่อญี่ปุ่นหลายสำนักมองว่า

“การได้เห็นโอซาก้ากลับมายืนคอร์ตด้วยรอยยิ้ม คือสัญญาณว่าทั้งเกมและใจของเธอเริ่มสมบูรณ์อีกครั้ง”

อันดับ WTA เตรียมดีดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในแง่คะแนนสะสม WTA ชัยชนะครั้งนี้ทำให้โอซาก้าเก็บแต้มสำคัญสำหรับการขยับอันดับ หลังจากหลุดจากกลุ่มท็อปของโลกไปช่วงหนึ่งเมื่อเธอพักแข่ง แต่ตอนนี้ เส้นทางกลับสู่ท็อป 30 หรือท็อป 20 เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ

นักวิเคราะห์ระบุว่า หากเธอสามารถผ่านเข้ารอบลึกในทัวร์ต่อไปได้อีก 2–3 รายการ อันดับของเธออาจปรับขึ้นหลายสิบอันดับทันที เพราะคะแนนปัจจุบันไม่ได้ผูกกับผลการแข่งขันเก่า ทำให้ทุกชัยชนะมีน้ำหนักสูงมาก

Japan Times เขียนว่า

“นี่คือจุดเริ่มต้นของการกลับมาสู่จุดสูงสุดของโอซาก้า—ถ้าฟอร์มแบบนี้ยังคงต่อเนื่อง เธออาจกลายเป็นตัวเต็งลุ้นแชมป์ Grand Slam ได้อีกครั้ง”

ด้วยฟอร์มที่มั่นใจขึ้นเรื่อย ๆ และสภาพจิตใจที่กลับมาดีที่สุดในรอบหลายปี แฟนเทนนิสทั่วโลกกำลังตั้งตารอว่าโอซาก้าจะเดินหน้าทำผลงานยอดเยี่ยมในทัวร์ต่อไปอย่างไร

อยากแทงบอล คาสิโน สล็อต ครบจบในเว็บเดียว? เข้าสู่ระบบ Ufa365 ได้ที่นี่!

เรอัล มาดริด ยิ้มได้ เมื่อวินิซิอุส กลับมาซ้อมเต็มรูปแบบเตรียมคืนสนามฟุตบอลลาลีกา สเปน

เรอัล มาดริด ยิ้มได้ เมื่อวินิซิอุส กลับมาซ้อมเต็มรูปแบบเตรียมคืนสนาม การกลับมาฝึกซ้อมร่วมทีมได้อีกครั้งหลังพักรักษาอาการเจ็บ สื่อสเปนชี้มีลุ้นลงสนามสัปดาห์นี้ เรอัล มาดริดได้รับข่าวดีเมื่อวินิซิอุส จูเนียร์กลับมาซ้อมอย่างเต็มรูปแบบแล้ว หลังพักนานเกือบสองสัปดาห์จากอาการกล้ามเนื้ออักเสบ คาดว่าเขาจะพร้อมสำหรับเกมลีกนัดถัดไป สร้างความมั่นใจให้แฟนบอลโลส บลังโกสอย่างมาก

เรอัล มาดริด ได้ข่าวดี เตรียมค้าแข้ง ในฟุตบอลลาลีกา สเปน 

วินิซิอุส จูเนียร์ คืนซ้อมเต็มสูบ เตรียมกลับมาไล่ล่าประตู กลับมาซ้อมร่วมทีมเต็มรูปแบบหลังพักรักษาตัว สื่อสเปนมั่นใจพร้อมลงสนามนัดหน้าให้เรอัล มาดริด

เรอัล มาดริดได้รับแรงกระตุ้นสำคัญเมื่อ วินิซิอุส จูเนียร์ กลับคืนสนามซ้อมเต็มรูปแบบอีกครั้ง หลังจากหายจากอาการกล้ามเนื้ออักเสบที่ทำให้พลาดลงสนามไปหลายเกม

ระหว่างการซ้อมวันนี้ที่วัลเดเบบาส วินิซิอุสดูแข็งแรงและเต็มไปด้วยพลัง โดยมีการวิ่งสปีดหลายรอบ และเล่นร่วมกับผู้เล่นแนวรุกคนอื่น ๆ อย่างไม่มีปัญหา

Marca รายงานว่า

“อันเชล็อตติพอใจมาก เขาต้องการให้วินิซิอุสกลับมาทันเกมสำคัญในลีก”

การกลับมาของเขาถือเป็นข่าวดีต่อมาดริด ซึ่งช่วงที่ไม่มีวินิซิอุส ทีมขาดความเร็วและความดุดันในเกมริมเส้นอย่างเห็นได้ชัด แนะนำ เว็บบอลออนไลน์ อันดับหนึ่ง >> UFA169

แมนยู สะดุ้ง บรูโน่ เจ็บเพิ่มก่อนเกมบิ๊กแมตช์ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษสุดสัปดาห์

แมนยู สะดุ้ง  สื่ออังกฤษรายงานบรูโน่เจ็บเพิ่มก่อนเกมบิ๊กแมตช์สุดสัปดาห์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอาจต้องกังวลไม่น้อยเมื่อมีรายงานจากสื่ออังกฤษว่า บรูโน่ แฟร์นันเดสกัปตันทีมได้รับอาการเจ็บบริเวณข้อเท้าในช่วงซ้อมทีมวันนี้ ก่อนเกมบิ๊กแมตช์พบลิเวอร์พูลสุดสัปดาห์นี้ แม้สโมสรยืนยันว่าไม่รุนแรง แต่ยังต้องทดสอบความฟิตก่อนลงสนามอย่างละเอียด

แมนฯ ยูไนเต็ด ลุ้นหนักก่อนบิ๊กแมตช์

แมนยู ต้องลุ้นหนัก สื่ออังกฤษเผยบรูโน่เดี้ยงก่อนดวลลิเวอร์พูล อาจพลาดลงช่วยทีม บรูโน่ แฟร์นันเดสเจ็บข้อเท้าจากการซ้อม สื่ออังกฤษรายงานว่าต้องทดสอบความฟิตก่อนเกมใหญ่พบลิเวอร์พูล สร้างความกังวลให้แฟนผีทั่วโลก

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเจอข่าวร้ายก่อนศึกแดงเดือดสุดสัปดาห์นี้ เมื่อมีรายงานจาก Sky Sports และ Manchester Evening News ว่า บรูโน่ แฟร์นันเดส กัปตันทีมคนสำคัญได้รับอาการบาดเจ็บข้อเท้าในช่วงซ้อมมื้อสุดท้ายของทีม

เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างการซ้อมจังหวะเข้าบอล ซึ่งบรูโน่มีอาการปวดและต้องหยุดซ้อมกลางคัน ทีมแพทย์ตรวจเบื้องต้นและยืนยันว่าอาการไม่ร้ายแรง แต่ยังต้องดูการตอบสนองภายใน 48 ชั่วโมง

แหล่งข่าวใกล้ชิดทีมระบุว่า

“บรูโน่ต้องรอเช็กความฟิตก่อนเกม เขาต้องการลงเล่น แต่ทีมแพทย์ไม่อยากเสี่ยง”

หากบรูโน่ลงเล่นไม่ได้ เทน ฮากจะขาดผู้เล่นที่เป็นตัวสร้างสรรค์เกมและเป็นผู้นำในสนาม โดยคาดว่า เมาท์ หรือแม็คโทมิเนย์ อาจต้องรับบทแทนอย่างเลี่ยงไม่ได้

เว็บบอลออนไลน์ อันดับหนึ่ง >> UFA169

เอ็มบัปเป้ ร้อนแรงต่อเนื่อง LIGUE 1 สื่อฝรั่งเศส ชูผลงานพาเปแอสเชนำโด่งในลีกเอิง

เอ็มบัปเป้ ร้อนแรงต่อเนื่อง LIGUE 1 สื่อฝรั่งเศส ชูผลงานพาเปแอสเชนำโด่งในลีกเอิง สำหรับคิลิยัน เอ็มบัปเป้ ทำประตูสำคัญอีกครั้งให้ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สื่อฝรั่งเศสชี้เขาคือหัวใจหลักของการลุ้นแชมป์ลีกเอิง

เอ็มบัปเป้ ยิงเปิดเกมช่วยให้ PSG ครองเกมตั้งแต่ต้น

คิลิยัน เอ็มบัปเป้ยังคงโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมตามมาตรฐานซูเปอร์สตาร์ระดับโลก หลังยิงประตูเปิดเกมให้ปารีส แซงต์-แชร์กแมงตั้งแต่นาทีแรก ทำให้ทีมครองเกมได้ตั้งแต่ต้นจนจบแบบไร้ความกังวล จังหวะสปีดจากกลางสนามสู่กรอบเขตโทษในไม่กี่ก้าว ก่อนจบสกอร์เฉียบคม ทำให้แฟนบอลในปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ส่งเสียงเฮสนั่นทันที

สื่อฝรั่งเศสอย่าง L’Équipe ระบุว่า “เอ็มบัปเป้เริ่มเกมด้วยความมั่นใจสุดขีด ประตูแรกของเขาทำให้รูปเกมเปลี่ยนไปทันที” การยิงขึ้นนำเร็วทำให้ PSG คุมเกมตามสไตล์ของตัวเองได้ และปิดพื้นที่ไม่ให้คู่แข่งมีโอกาสสวนกลับได้มากนัก

ความเร็วและการจบสกอร์ที่คู่แข่งหยุดไม่ได้

สิ่งที่สร้างปัญหาใหญ่ที่สุดให้แนวรับคู่แข่งคือ ความเร็วระดับสุดยอด ของเอ็มบัปเป้ ซึ่งทำให้กองหลังไม่สามารถประกบเขาได้แน่นเลยตลอดทั้งเกม ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งสอดหาช่อง หรือการลากบอลเข้าหากรอบเขตโทษ จังหวะฉีกตัวประกบและการเร่งสปีดกะทันหันทำให้เขาได้เปรียบทุกครั้งที่ได้บอล

จุดเด่นในเกมนี้ ได้แก่

• การวิ่งตัดหลังแนวรับอย่างแม่นยำ
• การจบสกอร์คมกริบทั้งซ้ายและขวา
• การสร้างช่องให้เพื่อนร่วมทีมขึ้นเติมได้ง่ายขึ้น

สื่อฝรั่งเศสอย่าง RMC Sport วิเคราะห์ว่า “ความเร็วของเอ็มบัปเป้เป็นสิ่งที่รับมือไม่ได้จริง ๆ เขาเปลี่ยนจังหวะเกมได้ทุกครั้งที่สัมผัสบอล” ฟอร์มเช่นนี้ทำให้เขายังคงเป็นตัวเต็งลุ้นดาวซัลโวประจำฤดูกาลอย่างชัดเจน

โค้ชมองว่า เอ็มบัปเป้คือผู้นำทีมทั้งในและนอกสนาม

หลังจบเกม ผู้จัดการทีม PSG ให้สัมภาษณ์ชื่นชมเอ็มบัปเป้ว่าเป็นมากกว่าดาวยิง เขาคือผู้นำในสนามที่คอยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมและสื่อสารในจังหวะสำคัญ ทำให้เกมรุกของ PSG ดูดุดันอย่างต่อเนื่อง

โค้ชกล่าวว่า “เอ็มบัปเป้เล่นอย่างมุ่งมั่น เขายกมาตรฐานทีมและสร้างความมั่นใจให้เพื่อนร่วมทีมทุกคน” เพื่อนร่วมทีมยังเปิดเผยว่า การมีเอ็มบัปเป้ในสนามทำให้ทุกคนรู้สึกมั่นใจมากขึ้น เพราะเขาสามารถสร้างความแตกต่างได้ในทุกจังหวะ ไม่ว่าจะเป็นการยิง การจ่าย หรือการเคลื่อนที่ลากกองหลังไปเปิดทางให้ผู้อื่น ผลจากความเป็นผู้นำนี้ทำให้ PSG มีระบบเกมรุกที่คล่องตัวขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงหลัง

PSG ขยับคะแนนนำห่างเพิ่มขึ้นอีก

ชัยชนะสำคัญครั้งนี้ทำให้ PSG เก็บสามแต้มเพิ่มและขยายช่องว่างจากทีมอันดับสองออกไปอีก ทำให้สถานการณ์บนตารางคะแนนตอนนี้พวกเขาดูเหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นในลีกอย่างเห็นได้ชัด สถิติสำคัญหลังเกม:

• PSG ชนะติดต่อกันหลายเกม
• ผลต่างประตูได้–เสียดีกว่าทุกทีมในลีก
• เอ็มบัปเป้มีส่วนร่วมกับประตูมากที่สุดของทีมในฤดูกาลนี้

France24 รายงานว่า “PSG กำลังวิ่งฉิวบนเส้นทางลุ้นแชมป์ และเอ็มบัปเป้คือคนที่ยกระดับทีมในทุกนัด” สถานการณ์ล่าสุดทำให้ PSG เป็นตัวเต็งแชมป์แบบไร้ข้อกังขา และหากฟอร์มของเอ็มบัปเป้ยังร้อนแรงต่อเนื่อง คู่แข่งทีมใดก็ยากจะไล่ทัน

ติดตามข่าวลีกเอิงเพิ่มเติม: lequipe.fr

เปิดประสบการณ์ดี ๆ เว็บบอลออนไลน์ UFA007 เว็บพนันบอลอันดับหนึ่ง แทงบอลง่าย พร้อมดูบอลสด ๆ ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง

 

แฮมิลตัน กลับมาท็อปฟอร์ม FORMULA ONE F1 WORLD CHAMPIONSHIP สื่ออังกฤษยกย่องการตั้งรถที่สมบูรณ์แบบในสนามล่าสุด

แฮมิลตัน กลับมาท็อปฟอร์ม FORMULA ONE F1 WORLD CHAMPIONSHIP ลูอิส แฮมิลตันทำผลงานโดดเด่นในสนาม F1 ล่าสุด สื่ออังกฤษมองว่านี่อาจเป็นสัญญาณการกลับคืนสู่ฟอร์มลุ้นแชมป์

แฮมิลตัน จบอันดับท็อปพร้อมฟอร์มที่แฟน ๆ คุ้นเคย

ลูอิส แฮมิลตันกลับมาแสดงให้โลกรู้ว่าเขายังไม่หมดไฟในวงการ F1 หลังจบการแข่งขันล่าสุดด้วยอันดับท็อปที่ทำให้แฟน ๆ คึกคักทั้งโซเชียลและในสนาม เสียงเชียร์ดังก้องเมื่อเขาเร่งความเร็วเฉือนคู่แข่งในช่วงท้าย ซึ่งเป็นจังหวะที่ทำให้นึกถึงฟอร์มระดับตำนานของเขาในช่วงพีคที่สุดของอาชีพ

สื่ออังกฤษรายงานว่า แม้รถเมอร์เซเดสจะมีปัญหาในช่วงต้นฤดูกาล แต่แฮมิลตันยังคงแสดงให้เห็นถึงความนิ่ง ความแม่นยำ และประสบการณ์ที่ทำให้เขาแตกต่างจากนักขับคนอื่น ๆ

Sky Sports F1 ระบุว่า “นี่คือฟอร์มที่แฟน ๆ คุ้นเคย—แฮมิลตันกลับมาขับอย่างมั่นใจและมีความดุดันทุกโค้ง”

การตั้งรถใหม่ที่ช่วยให้เขาคุมความเร็วได้ดีขึ้นมาก

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้แฮมิลตันทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในสนามนี้คือ การตั้งรถ (car setup) แบบใหม่ที่ทีมเมอร์เซเดสปรับให้เข้ากับสไตล์การขับของเขาอย่างลงตัว ทั้งในด้านแรงกดอากาศ การตอบสนองของพวงมาลัย และการคุมท้ายรถในโค้งความเร็วสูง

การตั้งรถที่แม่นยำทำให้เขาสามารถ

• รักษาเสถียรภาพในโค้งเร็ว

• เปิด DRS ได้ในจังหวะสำคัญแทบทุกรอบ

• กดเวลาต่อรอบสม่ำเสมอมากขึ้น

สื่ออังกฤษชี้ว่า ทีมงานตั้งค่ารถให้รองรับยางได้ดีขึ้น ทำให้แฮมิลตันไม่เจอปัญหายางร้อนเกินหรือสึกเร็วเหมือนสนามก่อน ๆ BBC Sport F1 วิเคราะห์ว่า “เมอร์เซเดสหาจุดลงตัวที่เหมาะกับแฮมิลตันที่สุดในปีนี้ และมันเห็นผลทันทีในสนามล่าสุด”

ทีมงานชี้ความร่วมมือในแผนพิททำให้เวลารวมยอดเยี่ยม

นอกจากฟอร์มของนักขับแล้ว ความสมบูรณ์แบบของการเข้าพิทก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ช่วยให้แฮมิลตันจบอันดับสูงอย่างน่าประทับใจ ทีมงานเมอร์เซเดสดำเนินการเปลี่ยนยางได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้เขาไม่เสียตำแหน่งสำคัญในช่วงชุลมุนของการแข่งขัน

รายละเอียดในเกมนี้ชี้ว่า

• แฮมิลตันเข้าพิทในรอบที่เหมาะสมกับสภาพยาง

• ทีมงานใช้เวลาเปลี่ยนยางต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของรายการ

• แผน undercut และ overcut ถูกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Motorsport.com ให้เหตุผลว่า “ความร่วมมือระหว่างนักขับและทีมพิทเป็นกุญแจสำคัญ ทำให้เวลารวมของแฮมิลตันดีขึ้นกว่าสนามที่ผ่านมาอย่างชัดเจน” แผนพิทที่ลงตัวนี้ทำให้เขามีโอกาสไล่บี้คู่แข่งจนแซงได้หลายตำแหน่งในช่วงท้าย

คะแนนสะสมที่ทำให้เขาขยับอันดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อันดับที่ดีในสนามนี้ส่งผลโดยตรงต่อคะแนนสะสมของลูอิส แฮมิลตันในตารางแชมป์โลก ซึ่งทำให้เขาขยับขึ้นอีกหนึ่งอันดับและเริ่มเข้าใกล้กลุ่มท็อป 3 มากขึ้นเรื่อย ๆ สถานการณ์ปัจจุบันระบุว่า

• คะแนนสะสมของเขาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องใน 3 สนามหลัง
• ห่างจากอันดับบนเพียงไม่กี่แต้ม
• ฟอร์มของทีมเริ่มมีความเสถียรมากขึ้น

สื่ออังกฤษมั่นใจว่า หากเมอร์เซเดสยังคงรักษามาตฐานการตั้งรถแบบนี้ต่อไป แฮมิลตันอาจกลับเข้าสู่เส้นทางลุ้นแชมป์โลกในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลได้ The Guardian สรุปว่า “นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้แฮมิลตันกลับมาท้าชิงแชมป์โลกได้อีกครั้ง”

ติดตามข่าว F1 เพิ่มเติม: skysports

เปิดประสบการณ์ดี ๆ เว็บบอลออนไลน์ UFA007 เว็บพนันบอลอันดับหนึ่ง แทงบอลง่าย พร้อมดูบอลสด ๆ ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง